Dahmer (2022) เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรรมอำมหิต

Dahmer (2022) เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรรมอำมหิต

<p><strong>Dahmer (2022) เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรรมอำมหิต</strong></p> <p>คดีของ Dahmer และตัวเขาได้รับการขนานนามว่า เป็นคดี &lsquo;Milwaukee Cannibal&rsquo; หรือ &lsquo;มนุษย์กินคนแห่งมิลวอกี้&rsquo; และสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ Netflix ที่อยากแนะนำให้ดู ก็เพราะว่านี่ไม่ใช่แค่การนำฆาตกรมาฉายวนซ้ำ หรือทำหน้าที่พาคนดูไปใกล้ชิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญราวกับย้อนเวลาเกาะติด แต่มันคือการตั้งคำถามแนวจิตวิเคราะห์อย่างน่าสนใจว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนคนหนึ่งทำอะไรป่าเถื่อนโหดร้ายและเลือดเย็นเช่นนี้ อะไรคือสาเหตุที่เขาลงมือทำเรื่อย ๆ และตอนทำสิ่งนั้นกับหลังทำ Dahmer มีท่าทีอย่างไร โดยเล่าตั้งแต่ตัวบุคคลหรือตัวฆาตกรรายนี้ ไปจนถึงสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอมให้เขาเป็นปีศาจ ระบบสังคมที่ไม่เท่าเทียม และกระบวนการ (อ) ยุติธรรมที่เอื้อให้เป็น&nbsp;</p> <p>หากนึกภาพไม่ออก&nbsp;<em>Dahmer &ndash; Monster: The Jeffrey Dahmer Story&nbsp;</em>เปรียบได้กับมุมกลับของซีรีส์เจ้าเดียวกันที่ชื่อ<em>&nbsp;Mindhunter</em>&nbsp;ซีรีส์เรื่องนั้นสร้างมาจากเรื่องจริงเช่นกัน ว่าด้วยการก่อตั้งหน่วย FBI และการพยายามเก็บข้อมูล ศึกษา และทำความเข้าใจฆาตกรต่อเนื่องหลายราย หรือกล่าวได้ว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการบัญญัติศัพท์ใหม่อย่าง &lsquo;ฆาตกรต่อเนื่อง&rsquo; (Serial Killer) เพื่อนิยามคนที่ฆ่าคนอย่างต่อเนื่องและมีรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่ในขณะที่&nbsp;<em>Mindhunter</em>&nbsp;อยู่ภายใต้ธีมที่ตัวละครพยายามทำความเข้าใจความหมายนี้จากการพูดคุยกับฆาตกรชื่อดัง และสืบสวนคดีโดยดำเนินเรื่องผ่านตัวละครเจ้าหน้าที่ 2 คน ซีรีส์&nbsp;<em>Dahmer</em>&nbsp;เป็นการบอกเล่าเรื่องราวเดียวกันในมุมกลับผ่านสายตาของ Jeffrey Dahmer ตั้งแต่เล็กจนโต และชวนตั้งคำถามว่า สุดท้าย &ldquo;อะไรทำให้เด็กชายคนหนึ่งโตมาชั่วร้ายได้ถึงเพียงนี้&rdquo;&nbsp;</p> <p>ซีรีส์ถ่ายทอดให้ได้เห็นแง่มุมของฆาตกรคนนี้ผ่านการเจาะใจอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้ใหญ่ แต่แทนที่จะเล่าตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่แบบเรียงลำดับเวลา (Chronological Order)<em>&nbsp;Dahmer &ndash; Monster: The Jeffrey Dahmer Story&nbsp;</em>กลับเลือกที่จะเล่าเหตุการณ์แบบตัดสลับไปสลับมาจนคนดูเกิดอาการ Lost in time (line) ตั้งแต่น้อยจนถึงมาก ราวกับกำลังดู<em>&nbsp;Westworld&nbsp;</em>ซีซั่น 2 ซึ่งพออ้างอิงซีรีส์เรื่องนั้น ก็ทำให้ฉุกคิดขึ้นได้ว่า อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าผู้สร้างจะตั้งใจหรือไม่ การเล่าเรื่องแบบนี้ก็สะท้อนธีมเกี่ยวกับซีรีส์ฆาตกรที่มีตัวตนจริงได้เหมือนกันครับ นั่นคือเรื่องราวในชีวิตที่ทุกขณะมีส่วนหล่อหลอมและประกอบสร้างต่อชีวิตปัจจุบันของ Jeffrey Dahmer และเช่นเดียวกัน เขาไม่ได้เพียงแค่ก่อความสยดสยองในอดีตแล้วเรื่องจบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือแผลและเรื่องเล่าที่ยังคงหลอกหลอนมาถึงปัจจุบัน ในฐานะส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์อเมริกาจนถึงปัจจุบันและต่อจากนี้</p> <p>นอกจากการเล่าแบบตัดสลับอดีตปัจจุบันจะทำหน้าที่เพิ่มความน่าติดตามด้วยที่มาที่ไปก่อนจะลงเอยในฉากนั้นแล้ว อีกหนึ่งหน้าที่ของการเล่าด้วยวิธีนี้ คือการเผยให้เห็นมุมมองอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจากฝั่งพ่อแม่ของ Jeffrey Dahmer เพื่อนบ้าน/ป้าข้างห้องที่ชื่อ Glenda Cleveland ที่ประสบพบเจอกับสิ่งที่ Jeffrey ทำอย่างใกล้ชิด ซีรีส์แสดงให้เห็นว่า เหยื่อของเขาไม่ใช่แค่คนที่ผ่านมาแล้วต้องจากไปโดยเงื้อมมือของฆาตกรกินเนื้อคนรายนี้ แต่พวกเขาเป็นคน มีความรู้สึก มีเพื่อน มีภาระ มีความฝัน และมีครอบครัวหรือคนที่รอให้พวกเขาเหล่านั้นรับสาย กลับมาบ้านมากินข้าว หรือนอนเตียงเดียวกัน รวมไปถึงครอบครัวของเหยื่อและท่าทีหลังจากสูญเสียคนที่รักไปเพราะชายคนนี้</p> <p>แม้การเล่าเรื่องจะหน่วงช้าค่อยเป็นค่อยไปไปบ้าง และอาจทำให้รู้สึกว่าใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะรู้สึกว่าเครื่องติด แต่ดูเหมือนจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ใช่การจบค้างให้อยากดูต่อ แต่เป็นการพาไปติดตามหวาดผวาเพื่อเข้าใจในเหตุผลมากกว่าติดตามเพื่อมองหาปลายทาง (ในเมื่อเรารู้ว่าเขาจะลงเอยด้วยการเป็น Dahmer คนที่ติดคุกและลงเอยด้วยการสังหารโหด 17 ศพ) เน้นการเก็บข้อมูล ปะติดปะต่อ ทำความเข้าใจอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนพอจิ๊กซอว์มาประกอบครบ ก็จะพบว่าเราทั้งเข้าใจ Jeffrey Dahmer ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตรงกันข้ามว่า เราไม่มีทางเข้าใจเขาได้เลยเช่นเดียวกัน เหมือนที่ FBI หรือวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยาทำได้เพียงศึกษา ค้นคว้า สัมภาษณ์ และหาข้อสรุปเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่อง จนค้นพบว่าข้อสรุปที่ชัดเจนที่สุดคือ เราไม่อาจเข้าใจคนพวกนี้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือระบุได้อย่างชัดเจนว่าคนไหนจะโตมาเป็น Serial Killer หรือไม่ หรือเลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็น Serial Killer</p>

เลือกตอน / Episode

EP1
EP2
EP3
EP4
EP5
EP6
EP7
EP8
EP9
EP10

ดูหนังออนไลน์ อัพเดทใหม่ล่าสุด 2022 ดูหนังออนไลน์ฟรี Netflix Full HD 4K

สำหรับคอหนังที่ชื่นชอบการดูหนังนอกเหนือจากในโรงภาพยนต์ไม่เว้นแม้แต่การดูหนังบนมือถือ Iphone Ipad Tablet หรือ Android ทุกยี่ห้อ ซึ่งเว็บไซต์ ดูหนังออนไลน์ฟรี ของเราถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับการดูหนังใหม่ล่าสุดฟรีไม่กระตุก ด้วยความคมชัดระดับ HD ตั้งแต่ 360px, 480px, 720px และ 1080px ไปจนถึงความคมชัด 4K หรือ Ultra HD ทั้งนี้ในการเลือกชมหนังออนไลน์มันๆ กับเราผู้ชมต้องเลือกความละเอียดหนังตามความเร็วอินเตอร์เนทของท่านในรูปแบบ 3G 4G Wifi และ Hi-Speed Internet อย่างเหมาะสม

ดูหนังออนไลน์ง่ายๆในไม่กี่คลิก

เว็บ มีทั้งหนังเก่า หนังใหม่ ให้คุณได้เลือกชมได้ฟรีทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งหนังไทย หนังจีน หนังฝรั่ง การ์ตูนอนิเมชั่น ดูหนังออนไลน์ และหนังอื่นๆอีกมากมาย เรารวบรวมหนังเก่าตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว+ มาจนถึงหนังใหม่ล่าสุดที่เพิ่งออกไม่กี่วันหรือที่นิยมเรียกันกว่าหนังชนโรงนั่นเอง ทีวีออนไลน์ ทีวีสด ดูบอลออนไลน์เราก็มีให้รับชมได้ฟรีเช่นกัน ทั้งทีวีช่องทั่วไป ช่องข่าว ช่องบันเทิง ช่องกีฬา มากมายหลากหลายรายการ รวมทั้งการถ่ายทอดกีฬาสด ฟุตบอลสดดูหนังออนไลน์ฟรี เราก็มีให้ท่านรับชมได้อย่างชมนั่นเอง ซึ่งข้อนี้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดของเหล่าคอหนัง เนื่องจากการรับชมแบบไม่เสียค่าบริการนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการนั่นเอง หนังอัพเดทใหม่ หนังออนไลน์HD หนังการ์ตูน หนังอนิเมะ หนังNetflix ซีรี่ย์จีน ซีรี่ย์ฝรั่ง ซีรี่ย์เกาหลี มาใหม่ทุกวัน มีทั้ง หนังบู๊ หนัง2021 หนังเก่า หนัง2022 หนังปี2020 ดูหนังตลก หนังชีวิตจริง หนังสยองขวัญ หนังลึกลับ เพลงคอนเสิร์ต ดูหนังกีฬา หนังสงคราม หนังคาวบายตะวันตก ดูหนังสยองขวัญ มีหนังพากย์ไทย ทั้งหนังซับไทย บรรยายไทย หนังซุปเปอร์ฮีโร่ หนัง MARVEL DC หนังแอคชั่น หนังอนิเมชั่น หนังการ์ตูนอนิเมะ ดูหนังฟรีไม่มีสะดุด หนังไม่มีโฆษณากวนใจ หนังชนโรง หนัง Netflix และเว็บไซต์ดูหนังออนไลน์นี้ ยังอัพเดทหนังใหม่ตลอด ดูหนังฟรี ดูหนังไม่เสียค่าใช้จ่าย ดูหนังออนไลน์ ดูหนัง ดูหนังใหม่ฟรี สมัครpgslot สมัครpgslot ดูหนังออนไลน์ฟรี2022 ดูหนังออนไลน์ฟรี ปั้มไลค์ดูหนัง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ฟรี